16.30 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
19.30 ออกเดินทางสู่ สนามบินอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY 407 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง 35 นาที
23.10 เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรอต่อเครื่อง
03.25 ออกเดินทางสู่ สนามบินมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY 081
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 30 นาที
07.55 เดินทางถึง สนามบินมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบการของสนามบิน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบอร์กาโม (Bergamo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เบอร์กาโม เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ในแคว้นลอมบาร์เดียทางตอนเหนือของอิตาลี และมีลักษณะเฉพาะด้วยการแยกส่วนตอนล่างและส่วนบนด้วยกำแพงเมืองเวนิสอันเก่าแก่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ในภูมิภาค ในช่วงยุคกลาง เบอร์กาโมเป็นเมืองของราชวงศ์ลอมบาร์ดพำนัก จึงกลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งเหลือล้นอันเนื่องมาจากสมบัติล้ำค่ามากมายที่เก็บไว้ ในฐานะที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เบอร์กาโมยังมีสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เช่นโบสถ์คอลโลโอนี รวมกับเมืองอัปเปอร์และโลเวอร์ที่มีความสูง 2 ชั้นที่แปลกตา และจัตุรัสอันงดงามมากมายและถนนช้อปปิ้ง นอกจากนี้เมืองนี้ยังอยู่ใกล้กับเมืองมิลาน
นำท่านชม กำแพงเมืองเบอร์กาโมเวนิส (Bergamo Venetian Walls) ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เมืองเก่าของเบอร์กาโมเคยถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันขนาดใหญ่หลายชุด ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงสภาพอยู่ถึงปัจจุบันและสามารถที่จะเดนไปตามส่วนต่างๆของกำแพงเมืองได้ กำแพงเหล่านี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 -16 มีการออกแบบ
นำท่านชม ประตูเมืองเบอร์กาโม (Bergamo City Gate) เมืองเก่าของเบอร์กาโมรายล้อมไปด้วยกำแพงเมืองเวนิสที่น่าตื่นตาตื่นใจ และในปัจจุบันมีประตูหลายบานที่ยังคงอยู่ในสภาพยอดเยี่ยมแม้จะมีอายุมายาวนานแล้วก็ตาม ประตูที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ประตู Porta San Giacomo
ซึ่งเป็นประตูทางเข้าที่ทำจากหินอ่อนสีขาวตระการตา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 และตั้งตระหง่านเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงป้องกันเมือง เมื่อเดินขึ้นไปทีประตูจามทางเดินโค้ง คุณจะมองเห็นเมืองเบอร์กาโมอันกว้างไกลทั้งเขตเมืองและเขตชนบท
นำท่านเยี่ยมชม จัตุรัสเก่า Piazza Vecchia จัตุรัสที่น่ารื่นรมย์แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักในเมืองตอนบนอันเก่าแก่ รอบๆจัตุรัสเป็นอาคารที่สวยงามหลายหลังรวมถึง Campanone Torre Civica, Palazzo della Ragione อันงดงามและน้ำพุตกแต่งตรงกลาง มักจะมีการจัดงานต่างๆขึ้นภายในจัตุรัสที่มีเสน่ห์แห่งนี้
นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ มหาวิหารเซนต์แมรี (Basilica of St.Mary) แต่เดิมสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 มหาวิหารยังไม่แล้วเสร็จจนกระทั่งศตวรรษที่ 14 เนื่องจากปัญหาทางการเงินของโบสถ์ ด้านหน้าของโบสถ์มีการตกแต่งมากมาย และเหนือหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ตรงกลางมีการออกแบบทรงลูกบาศก์ 3 มิติ ที่ทำจากหินอ่อนโพลีโครม นอกจากนี้ยังมีซุ้มหินอ่อนและรูปปั้นนักบุญชาวอิตาลี ภายในมหาวิหาร คุณจะประทับใจกับรายละเอียดและการตกแต่งจำนวนมาก โดยที่เพดานและซุ้มประตูถูกปิดด้วยปูนสีทองและสีสันสดใส
นำท่านผ่านชม พิพิธภัณฑ์ร็อคโค (Rocca Museum) พิพิธภัณฑ์ Rocca ตั้งอยู่ทางเหนือของส่วนหลักของกำแพงเมืองเวนิส ภายในป้อมปราการเก่าแก่ พร้อมด้วยด้วยหอคอยทรงกลมและกำแพงหินขนาดมหึมา นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะอันสวยงามอยู่ใต้ป้อมปราการซึ่งท่านสามารถเดินผ่านชมได้เช่นกัน
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ทะเลสาบการ์ดาตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี อยู่ระหว่างเวโรนาและเบรสชา บริเวณเทือกเขาแอลป์ มีพื้นที่ 360 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี นำท่านถ่ายรูปกับ ทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) และเดินชื่นชมความงามและบรรยากาศรอบๆทะเลสาบตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (Bolzano) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองโบลซาโน ถือว่าเป็นประตูสู่โดโลไมท์ เป็นเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ภูเขาของเซาท์ทิโรล (South Tyrol) ในเทือกเขาแอลป์ของประเทศอิตาลี โบลซาโนเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้ และเป็นเมืองหลวงของเซาท์ทิโรลด้วย เมืองนี้มีความโดดเด่นในการได้รับหารโหวตให้เป็นเมืองคุณภาพชีวิตดีที่สุดของอิตาลีในปี 2014 โบลซาโนได้รับประโยขน์จากสถานที่ตั้งบนเทือกเขาแอลป์ที่ยอดเยี่ยมและล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ของภูเขาที่สวยงามอย่างแท้จริง เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและด้วยเหตุนี้จึงมีโบสถ์ที่สวยงามและปราสาทโบราณมากมาย นอกจากนี้ ชนบทยังเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดิน ปีนเขา และปั่นจักรยาน โดยทั่วไปทั้งภูมิภาคเต็มไปด้วยเส้นทางเดินและธรรมชาติที่หลากหลาย
นำท่านสู่ จัตุรัส Piazza Walther จัตุรัสหลักในโบลซาโนและเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สวยงามที่สุดของเมือง จัตุรัสนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีอนุสรณ์สถานสำคัญและอาคารเก่าแก่หลายแห่ง ที่มุมด้านใต้ของจัตุรัส คือ Duomo di Bolzano อันสง่างาม และตรงกลางของจัตุรัสมีน้ำพุที่สวยงามวิจิตร นอกจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามและอาคารอันเก่าแก่แล้ว จัตุรัสยังมี ตลาดและแผงขายของเล็กๆ ร้านกาแฟ และร้านอาหารต่างๆ มากมาย
นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ ดูโอโม ดิ โบลซาโน (Duomo di Bolzano) โบลซาโนมีอาคารทางศาสนาที่น่าอัศจรรย์และน่าประทับใจที่สุด คือ ดุโอโม ดิ โบลซาโน อาสนวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส Walther และสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 4 มหาวิหารได้รับการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเข้ามาละบูรณะใหม่ ลักษณะเด่นของอาคารแบบโกธิกนี้คือหลังคากระเบื้องที่สวยงาม หลังคานี้มีลวดลายเพชรสีเขียว สีขาวและสีเหลืองที่งดงามและโดดเด่นเมื่อเทียบกับอาคารโดยรอบ ภายในโบสถ์มีเสาหินหลากสีและแท่นบูชาหลักที่ตกแต่งอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่บันทึกประวัติศาสตร์ของมหาวิหารและมีโบราณวัตถุที่สวยงาม
นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ โบสถ์โดมินิกัน (Dominican Church) โครงสร้างทางศาสนาที่น่าประทับใจ ใจกลางเมืองโบลซาโน โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเซนต์ดอมินิกในช่วงปลายทศวรรษ 1200 และเป็นหนึ่งในอาคารที่ได้รับแรงบันดาลใจแยยโกธิกแห่งแรกในเมือง แม้ว่าด้านหน้าของโบสถ์จะค่อนข้างเรียบ แต่ภายในโบสถ์ก็ตกแต่งอย่างสวยงามและมีภาพที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย
นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์ เดลลา วิคตอเรีย (Monumento della Vittoria) ซุ้มประตูชัยอันยิ่งใหญ่นี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 และมีคำจารึกภาษาละตินที่ด้านหน้าอาคารหลัก สร้างขึ้นในปี 1928 ตามคำสั่งของมุสโสลินี สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาว
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก HOTEL FOUR POINTS BY SHERATON BOLZANO ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอร์วารา (Corvara) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองในเขต South Tyrol ภาคเหนือของอิตาลี อยู่ห่างจากเมืองโบลซาโนประมาณ 60 กิโล เป็นเมืองท่องเที่ยวซึ่งตั้งอยู่ที่ปลายด้านบนสุดของ Val Badia ล้อมรอบด้วยยอดเขา Dolomites เนื่องจากตำแหน่งภูมิศาสตร์ในใจกลาง Dolomites Alta Badia จึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัยแต่ยังคงสภาพอัลไพน์ไว้อย่างสมบูรณ์ อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและถ่ายรูปวิวทิวทัศน์อันสวยงามตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบมิซูรินา (Lake Misurina) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของ Cadore และอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,754 เมตร ทะเลสาบมีความยาว 2.6 กม. ทะเลสาบมิซูรินายังเคยเป็นที่จัดกิจกรรมสเก็ตน้ำแข็งระหว่างโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1956 ที่เมืองกอร์ตินา ดัมเปซโซ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่งานสเก็ตความเร็วโอลิมปิกจัดขึ้นบนน้ำแข็งธรรมชาติ มีเรื่องเล่าเป็นนิทานพื้นบ้านเกี่ยวกับทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งได้แต่งเป็นเพลงที่โด่งดัง ชื่อเพลง Sabato Pomeriggio ของ Claudio Baglioni มิซูรินาเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงที่มีนิสัยดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเอง พ่อของเธอ คือ ราชายักษ์ Sorapiss ผู้ที่รักและหวงแหนลูกสาวของตนมาก ทุกวันราชาจะคอยเลี้ยงดูลูกสาวของตนในอุ้งมือของตนตลอดเวลา วันนึงมิซูรินามีความปราถนาที่
จะได้กระจกวิเศษจากเทพธิดาแห่งมอนเต เทพธิดาก็ยินยอมมอบกระจกนั้นให้ แต่มีข้อแม้เดียวคือ ราชาต้องกลายร่างเป็นภูเขาเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ในขณะที่ราชาค่อยๆกลายร่างเป็นภูเขานั้น การเปลี่ยนแปลงของร่างกายทำให้เขาไม่สามารถประคองลูกสาวไว้ในอุ้งมือได้ จึงทำให้ลูกสาวพลัดตกลงมา เขาเห็นลูกสาวร่วงหล่นสู่ด้านล่าง จึงเสียใจมากและได้ร้องไห้น้ำตาของเขาไหลเหมือนแม่น้ำและก่อตัวเป็นทะเลสาบ ที่ด้านล่างมีลูกสาวของเขาอยู่กับกระจกวิเศษตลอดไป ทุกวันนี้ราชายังคงเป็นภูเขาที่คอยเฝ้าคุ้มครองลูกสาวของเขาอยู่เหนือทะเลสาบ ตลอดมา อิสระให้ท่านเดินชมและถ่ายรูปกับทะเลสาบตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส (Venice) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เวนิส หรือ เวเนเซีย ในภาษาอิตาลี เป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณ ทะเลสาบเวทิเนีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเอเดรียติก ในภาคเหนือของอิตาลี
นำท่านนั่งเรือที่ ท่าเรือตรอนเคตโต (Tronchetto) สู่ เกาะเวนิส (Venice Island)
อิสระให้ท่านถ่ายรูปและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พิเศษเมนูสปาเก็ตตี้หมึกดำ
ที่พัก HOTEL MONTECARLO VENICE ISLAND ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินเยี่ยมชมจุดสำคัญต่างๆของเกาะเวนิส อาทิเช่น มหาวิหารเซนต์มาร์ก (St. Mark’s Basilica) มหาวิหารที่ตั้งอยู่บน จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) กลางเมืองเวนิส เป็นมหาวิหารที่ได้รับสมญานามว่า Cheisa d’oro หรือโบสถ์ทองตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 เกาะเวนิส ผ่านชม พระราชวังดอจนส์ (Doge’s Palace) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในเวเนเซี่ยนโกธิคสไตล์ พระราชวังเคยเป็นที่พำนักของดยุคแห่งเวนิสที่มีอำนาจสูงสุดของอดีตสาธารณรัฐ สร้างขึ้นในปี 1340 และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1923 สะพานทอดถอนใจ (Bridge of Sighs) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อกับคุก *ไม่รวมค่าล่องเรือกอนโดล่า เรืออันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะเวนิส เรือที่ตกแต่งเบาะนั่งอย่างสวยงามแตกต่างกันไป เรือ 1ลำ สามารถจุผู้โดยสารได้ 5-6 ท่าน เรือ 1 ลำ ประมาณ 80 – 120 ยูโร หรือ คำนวณ เป็นเงินไทย ลำละ ประมาณ 3,200 – 4,800 บาท * นำท่านนั่งเรือกลับสู่เมืองเวนิส
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) (ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดย องค์การสหประชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี 1982
เดินทางสู่ มหาวิหารซานตามาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria Dell Fiore) ชมความยิ่งใหญ่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปยุโรป โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้ หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม จัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้นอันวิจิตรสวยงาม อาทิเช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (Fountain of Neptune) วีรบุรุษเปอรร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า (Persues with the Head of Medusa) รูปปั้นเดวิดผลงานที่มีชื่อเสียงของไมเคิลแองเจโล่ สะพานเวคดิโอ (Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่มีร้านขายทองและอัญมณีอยู่ทั้งสองข้างสะพาน อิสระให้ท่านเลือกชมสินค้า หรือ ของที่ระลึกต่างๆ ตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก Hotel Charme Prato ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโรม (Rome) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลัดซีโย ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษอาหารไทย
นำท่านชมความยิ่งใหญ่ในอดีตและเก็บภาพสวยงามบริเวณรอบนอกของ สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ อดีตสนามการประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน
นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพี่มีความสูง 25.9 เมตร (85 ฟุต) และกว้าง 19.8 เมตร (65 ฟุต) และน้ำพุประติมากรรมของเทพนิยายกรีกแบบบารอค ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโรม ที่นักท่องเที่ยวสามารถโยนเหรียญ เพื่อขอให้ได้เดินทางกลับมาที่เมืองโรมอีกครั้ง มีตำนานเล่าว่า หากหันหลังแล้วโยนเหรียญลงน้ำพุเทรวี แล้วอธิษฐานให้ได้กลับมาเมืองโรมอีกครั้งก็จะสมหวัง
เดินทางสู่ บันไดสเปน (The Spanish Step) ซึ่งเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำสุดหรู ไม่ว่าจะเป็น Brandname ดังๆมากมาย รวมถึงร้านอาหาร ร้านขนม ร้าน กาแฟ ร้านไอศครีม มากมายให้เลือกชม
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้ง
ที่พัก Hotel Novotel Roma Est ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า แบบกล่อง
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินชี ฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลี
10.20 นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY 086
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที
18.25 เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อรอการเปลี่ยนเครื่องกลับสู่กรุงเทพฯ
22.35 นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY 402
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที
08.05 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
